สุดยอด สีเสื้อถูกโฉลกในแต่ละวัน สามารถนำไปปรับใช้ในแต่ละวันของท่าน เพื่อให้กลายเป็นวันที่ดีของท่านได้ สีเสื้อตามวันเกิด
ทำความรู้จักกับ สีเสื้อถูกโฉลกในแต่ละวัน
สีเสื้อถูกโฉลกในแต่ละวัน หรือที่เป็น สีเสื้อมงคล ตามหลักของโหราศาสตร์ที่ถือว่าไปต้นกำเนิดหรือกฎเกณฑ์ในการแบ่งแยกสีต่าง ๆ ตามวันเกิด ซึ่งมาจากสีในภูมิทักษา หรือที่เรียกว่าสีประจำพระเคราะห์ทั้ง 8 ซึ่งถ้าพูดถึงในตำนานการกำเนิดของดาวเคราะห์ และตำนานของชาติเวร โหราจารย์ในสมัยอดีตท่านได้ผูกเรื่องของประวัติชาติเวรที่ได้กำเนิดเอาไว้หลายเรื่อง ทั้งยังเป็นบุคลาธิษฐานหรือเป็นเทวนิยายที่บางท่านอาจจะรู้จัก
อย่างเช่น วันอาทิตย์ “เป็นพระอิศวรที่ถือว่าเป็นเจ้าที่ได้ทำการสร้างพระอาทิตย์ขึ้น ต้องเอาราชสีห์ ๖ ตัวเพื่อมาเป่าลง แล้วทำการห่อด้วยผ้าสีแดง พรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดเป็นองค์ของพระสุริยะทิพย์เทพยาทินกรขึ้นมา และยังมีกายเป็นสีแดงทรงเครื่องทิพย์อาภรณ์พรายแพรวไปด้วยแก้วปัทมราช และมีวิมานสีแดง ทรงบนหลังราชสีห์ที่ใช้เป็นพาหนะ สถิตอยู่ในอิสานทิศ”
ดังนั้นสีแดงจึงได้กลายเป็นสีประจำวันของพระอาทิตย์ หรือผู้ใดที่เกิดวันอาทิตย์เป็นต้น ส่วนวันอื่น ๆ ที่เหลือนั้นก็มีสีประจำวันอีกเช่นกัน ในการเลือกเข้าใช้จะจัดวางไปตามภูมิทักษา ในรูปแบบเดียวกับทักษาปกรณ์ในการตั้งชื่อ แต่ใช้สีเพื่อแทนอักขระ ก็จะได้สีประจำภูมิต่าง ๆ อาทิเช่น บริวาร , อายุ , เดช , ศรี , มูละ , อุตสาหะ และสีกาลกิณี เรียงตามลำดับ ในหลักของการเลือกสีให้ท่านหลีกเลี่ยงสีที่เป็นภูมิกาลกิณี ส่วนสีภูมิทักษาอื่น ๆ สามารถใช้ได้หมด ท่านอาจเลือกตามภูมิต่าง ๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมเฉพาะเรื่อง เช่น เลือกสีภูมิมูลละ เพื่อที่จะส่งเสริมในเรื่องทรัพย์สมบัติ เงินทอง หรือผลประโยชน์ เป็นต้น
การที่ท่านใช้สีเสื้อประจำวัน หรือสีเสื้อถูกโฉลก สุนทรภู่ซึ่งถือว่าเป็นนักปราชญ์ ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ผู้ที่รอบรู้ศาสตร์โบราณแขนงต่าง ๆ รวมทั้งโหราศาสตร์ ท่านก็ได้ทำการบันทึกตำราคำสอน เป็นมุขปาฐะบ้าง และทำการแต่งเป็นคำกลอนบ้าง อย่างเช่น สวัสดิรักษาคำกลอน ซึ่งเป็นบทกลอนที่กล่าวเกี่ยวกับสีเพื่อที่จะเสริมศิริมงคล หรือสีตามหลักทักษาในตำนานการกำเนิดของดาวพระเคราะห์ และตำนานชาติเวรต่าง ๆ
สวัสดิรักษาถือว่าเป็นหนังสือที่มีคำสอนที่ท่านควรปฏิบัติ และไม่ควรปฏิบัติ ซึ่งเป็นแบบเดียวกับสุภาษิตที่ใช้สอนหญิง ถ้าหากใครที่ปฏิบัติได้จะเกิดความสวัสดี หรือเรียกว่า “สวัสดิรักษาคำกลอน” เพื่อเป็นการถวายพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอาภรณ์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้ทรงมอบให้เพื่อเป็นศิษย์ศึกษา ซึ่งบทกลอนนั้นจะมีการพูดถึงสีมงคลในแต่ละวัน และเน้นสีของเครื่องแต่งกายในแต่ละวัน สวัสดิมงคลทางออกศึกออกรบ ซึ่งจะทราบว่าในแต่ละวันจะต้องใช้สีอะไรดีถึงจะถูกโฉลก ซึ่งแต่ละสีที่ท่านสุนทรภูพูดถึงนั้นก็เป็นไปตามสีภูมิทักษานั้นเอง
สำหรับสีเสื้อประจำวันต่าง ๆ ภายในแต่ละภูมิทักษา ที่มีการพูดถึงในเทวนิยายชาติเวรกำเนิดเอง ก็จะมีสีหลัก ๆ เท่านั้นแต่เมื่อนำมาใช้ทางหลักของโหราศาตร์ เพื่อเลือกสีเสื้อหรือสีรถ หรือสีที่ต้องในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีสีให้เลือกอย่างมากมาย จึงใช้แค่โทนสี หรือสีที่มีลักษณะที่ใกล้เคียงกัน กับสีหลักในการคิดพิจารณา
สีเสื้อประจำวันอาทิตย์
ตำนานชาติเวรของดาวประจำคนที่วันเกิดในตำราของโหราศาสตร์ได้ทำการกล่าวไว้ว่า “พระอิศวรเป็นเจ้าได้ทรงสร้างพระอาทิตย์ขึ้นมา ต้องใช้ราชสีห์ ๖ ตัวเพื่อมาเป่าลง แล้วห่อด้วยผ้าสีแดง และพรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดกลายเป็นองค์พระสุริยะทิพย์เทพยาทินกรขึ้น ซึ่งมีกายเป็นสีแดงทรงเครื่องทิพย์อาภรณ์พรายแพรวไปด้วยแก้วปัทมราช และมีวิมานสีแดง ทรงบนหลังราชไกรสร (ราชสีห์) เป็นพาหนะประจำตัว สถิตอยู่ในอิสานทิศ”
เพราะฉะนั้นสีเสื้อประจำวันอาทิตย์ หรือสีภูมิบริวารของวันอาทิตย์ก็คือ สีแดง หรือโทนสีที่ออกเป็นแดงสด หรือแดงกุหลาบนั้นเอง
สีเสื้อประจำวันจันทร์
ตำนานชาติเวรของดาวประจำวันคนที่เกิดวันนี้ในตำราโหราศาสตร์ก็กล่าวไว้ว่า “พระอิศวรผู้เป็นเจ้าได้ทรงสร้างพระจันทร์ จากนางฟ้าทั้ง ๑๕ องค์ โดยการร่ายเวทย์ให้นางฟ้าทั้ง ๑๕ องค์ให้ละเอียดลงไป แล้วทำการหุ้มห่อด้วยผ้าที่มีสีเหลืองอ่อน แล้วประพรมด้วยน้ำอมฤต จากนั้นก็บังเกิดเป็นพระจันทร์เทพบุตรขึ้นมา มีกายสีนวล ทรงเครื่องทิพย์อาภรณ์แก้วประมวลนิวัตร และมีวิมานแก้วสีมุกดา ทรงอัศวราช(ม้า) เป็นพาหนะประจำตัว สถิตอยู่ในบูรพาทิศ”
เพราะฉะนั้นสีเสื้อประจำวันจันทร์ หรือสีของภูมิบริวารวันจันทร์ นั้นก็คือ สีเหลืองอ่อน สีขาว สีเทาอ่อน ๆ หรือจะเป็นโทนเหลืองขาวแบบสว่าง ๆ นั้นเอง
สีเสื้อประจำวันอังคาร
ตำนานชาติเวรของดาวประจำของวันเกิดในหลักของตำราโหราศาสตร์มีการกล่าวไว้ว่า “พระอิศวรผู้เป็นเจ้าสร้างพระอังคารขึ้นด้วยมหิงษา (กระบือ)ทั้ง 8 ตัว ทรงทำการร่ายพระเวทให้ละเอียดลง แล้วทำการห่อด้วยผ้าสีแดงอ่อน ๆ ของแก้วเพทาย แล้วทำการพรมด้วยน้ำอมฤต ก็ได้เกิดกลายเป็นองค์พระอังคารเทพเรืองฤทธิ์ขึ้น ที่มีกายเป็นสีแก้วเพทาย ทรงรัตนโกเมนเป็นอาภรณ์ และมีสีของวิมานเป็นสีทับทิม ทรงราชเกษร (ถวาย) ในหนังสือโลกธาตุว่าทรงขรราช (ลา) เพื่อเป็นพาหนะสถิตอยู่ในอาคเนย์ทิศ”
เพราะฉะนั้นสีเสื้อประจำวันอังคาร หรือสีภูมิบริวารของวันอังคาร ก็คือ สีชมพู สีแดงอ่อน สีโอโรส หรือโทนสีที่เป็นสีชมพู หรือสีแดงอ่อน ๆ นั้นเอง
สีเสื้อประจำวันพุธ(กลางวัน)
ตำนานชาติเวรของดาวประจำวันคนที่เกิดในหลักของตำราโหราศาสตร์กล่าวไว้ว่า “พระอิศวรผู้เป็นเจ้าได้ทำการสร้างพระพุธขึ้นด้วยพญาคชสารทั้ง 17 ตัว โดยเอามาป่นลง แล้วทำการห่อด้วยผ้าสีเขียว โทนสีเขียวใบไม้ ประพรมไปด้วยน้ำอมฤต บังเกิดเป็นองค์พระพุธเทพเทวาที่มีสีกายเป็นสีแก้วมรกต และมีสีวิมานเป็นสีมณี ทรงคชคเชนทร(ช้าง) ซึ่งเป็นพาหนะ สถิตอยู่ในทักษิณทิศ”
เพราะฉะนั้นสีเสื้อประจำวันพุธ หรือสีภูมิบริวารของวันพุธ นั้นก็คือ สีเขียวแก่ เขียนใบไม้ หรือโทนสีเขียวทั้งอ่อน และเข้มนั้นเอง
สีเสื้อประจำวันพุธ(กลางคืน,ราหู)
ตำนานชาติเวรของดาวประจำวันคนที่เกิดในตำราโหราศาสตร์กล่าวไว้ว่า “พระอิศวรผู้เป็นเจ้าได้ทรงสร้างพระราหูขึ้นโดยใช้ศีรษะผีโขมดทั้ง 12 ตัวมาป่นลง แล้วทำการประพรมด้วยน้ำอมฤตก็บังเกิดเป็นองค์พระอสุรินทรเรืองฤทธิ์ สีดำสลัว ทรงทิพยสุวรรณแสงสีที่ใสสะอาด และมีวิมานที่เป็นสีนิลมีมหาสุบรรณราช(ครุฑ) เป็นพาหนะประจำตัว สถิตในทิศพายัพ”
เพราะฉะนั้นสีเสื้อประจำวันพุธกลางคืน,ราหู หรือสีภูมิบริวารของวันพุธกลางคืน นั้นก็คือ สีดำสลัว หรือสีที่หม่น ๆ ไปทางสีดำ แต่ต้องไม่ดำสนิทนั้นเอง
สีเสื้อประจำวันพฤหัสบดี
ตำนานชาติเวรของดาวประจำวันเกิดในหลักของตำราโหราศาสตร์กล่าวไว้ว่า “พระอิศวรผู้เป็นเจ้า สร้างขึ้นจากฤๅษีทั้ง 19 ตน คือได้ทรงร่ายเวทให้กายฤๅษีทั้ง 19 ตนนั้นละเอียดลง แล้วนำผ้าสีแสดทำการห่อผงนั้น ประพรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกดเป็นองค์พระพฤหัสบดีขึ้นมา ซึ่งมีสีกายเป็นสีแก้วไพฑูรย์ ทรงทิพยอาภรณ์ สุวรรณรัตนรูจี แจ่มแจ้งไปด้วยมุกดาหาร และมีวิมานที่เป็นสีบุษรากับทรงมฤคราช (กวางทอง) ในอธิไทยโพธิบาทว์ ได้ทำการกล่าวว่าทรงมณฑก (กบ) พระพฤหัสบดี ซึ่งมีมณฑกนั้นเป็นพาหนะประจำตัว สถิตอยู่ในปัจฉิมทิศ”
เพราะฉะนั้นสีเสื้อประจำวันพฤหัสบดี หรือสีภูมิบริวารของวันพฤหัสบดี นั่นก็คือ สีแสด สีเหลืองเข้ม สีส้ม สีทอง หรือจะเป็นโทนของสีแสดนั่นเอง
สีเสื้อประจำวันศุกร์
ตำนานชาติเวรของดาวประจำวันเกิดในหลักของตำราโหราศาสตร์กล่าวไว้ว่า “พระอิศวรผู้เป็นเจ้า ได้สร้างพระศุกร์ขึ้นจากคาวีทั้ง 21 ตัวโดยทำการร่ายพระเวทให้โคทั้ง 21 ตัวนั้นป่นละเอียด แล้วทำการห่อด้วยผ้าสีน้ำเงินหรือสีคราม ทำการประพรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดเป็นองค์พระศุกร์เทวาขึ้นมา ซึ่งมีกายเป็นสีประภัสสร ทรงนิราภรณ์ เลื่อมประภัสสรโอภาส และมีสีของวิมานเป็นสีทอง ทรงโคศุภราช(วัว) เป็นพาหนะประจำตัว สถิตในอุดรทิศ”
เพราะฉะนั้นสีเสื้อประจำวันศุกร์ หรือสีภูมิบริวารของวันศุกร์ นั่นก็คือ สีน้ำเงิน สีคราม สีฟ้า หรือจะเป็นโทนสีน้ำเงินนั่นเอง
สีเสื้อประจำวันเสาร์
ตำนานชาติเวรของดาวประจำวันเกิดในหลักของตำราโหราศาสตร์กล่าวไว้ว่า “พระอิศวรผู้เป็นเจ้า ทรงสร้างพระเสาร์ขึ้นจากพยัคฆ์ทั้ง 10 ตัว โดยทำการร่ายพระเวทให้เสือนั้นป่นลง แล้วจึงทำการห่อด้วยผ้าสีดำ ประพรมไปด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดกลายเป็นองค์พระเสาร์เทวราชขึ้น ซึ่งมีสีกายเป็นสีคล้ำ ทรงรัตนนิลเป็นทิพยอาภรณ์ มีสีของวิมานเป็นสีมรกต ทรงพยัคฆ์ราช (เสือ) เป็นพาหนะประจำตัว สถิตในหรดีทิศ”
เพราะฉะนั้นสีเสื้อประจำวันเสาร์ หรือสีของภูมิบริวารวันเสาร์ นั่นก็คือ สีดำ โทนสีดำ สีน้ำตาลเข้ม หรือม่วงเข้ม สีเข้ม ๆ หรือสีที่แก่มาก ๆ นั่นเอง
สรุปการเลือกสีเสื้อ
เมื่อทุกท่านได้ทราบสีประจำวันเกิดหรือสีของภูมิบริวารทั้ง 8 วันแล้ว สามารถนำมาจัดวางตามหลักของทักษาปกรณ์ จะได้สีประจำภูมิทักษาทั้ง 8 นั่นก็คือ ภูมิบริวาร อายุ เดช ศรี มูลละ อุตสาหะ มนตรี และกาลกิณี
ในการที่ท่านจะเลือกสีเสื้อประจำวันก็ให้ท่านดูว่าท่านเกิดวันใด วันอาทิตย์ – เสาร์ ,วันพุธกลางคืน (วันทางจันทรคติ ก็อาจไม่เหมือนกับสูติบัตรของท่าน ตรวจสอบวันเดือนปีเกิด) หากท่านได้ทราบวันเกิดของท่านตามหลักโหราศาสตร์แล้วสามารถเลือกสีเพื่อให้ส่งเสริมเรื่องนั้น ๆ ได้ตามที่ท่านต้องการ เช่น หากท่านเกิดวันอาทิตย์ ต้องการให้สีนั้นส่งเสริมในเรื่องของเงิน ๆ ทอง ๆ ท่านก็ควรเลือกสีในภูมิมูลละ ซึ่งก็คือสีดำ หรืออาจจะเป็นโทนสีดำ หรือสีม่วงนั่นเอง หากท่านเลือกสีเสื้อได้แล้วอยากลองเสี่ยงดวงเรื่องการเงินดู สามารถเข้าลองเสี่ยงดวงกับ เกมคาสิโนออนไลน์ ได้ที่นี่
